วันศุกร์ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2554

คำขวัญวันเด็กปี 55 ใครเป็นเด็กมาดูกัน -w-

วันนี้นั่งหลังทานข้าวเที่ยงเสร็จ แวะไปร้าน 7-11 ก็เหลือบไปเห็น ไทยรัฐฉบับพรุ่งนี้พาดหัวไว้ว่า นายกยิ่งลักษณ์ มอบคำขวัญแล้ว พร้อมกับข่าวว่า อดีตนายกทักษิณ มีแนวโน้มจะได้กลับมาประเทศไทย แต่ใครจะสนละ เรามาสนเรื่องเราดีกว่า -*-

คำขวัญวันเด็กปี 2555 ซึ่งตรงกับวันที่ 14 มกราคม 2555 นายกยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มอบให้เด็กและเยาวชนไทยรุ่นใหม่ไว้ดังนี้
" สามัคคี มีความรู้คู่ปัญญา คงรักษาความเป็นไทย ใส่ใจเทคโนโลยี " (จำยากไปไหมเนี้ย -*-)

และเท่าที่ผมลองค้นหา Google ด้วยคำค้นว่า 'วันเด็ก 55' หรือ 'คำขวัญวันเด็ก ปี 2555' ก็จะพบว่าหลายเว็บอัพเดต

คำขวัญปีล่าสุดกันแล้ว และอีกหลายๆเว็บเช่นกันก็จะมาพร้อมกับ คอมเม้นท์ ติเรื่องความขวัญ โดยผู้ใช้อินเตอร์เน็ตทั้งหลาย อาทิเช่น 'ลายมือไม่สวย' , ' ใช้ภาษาไทยไม่คล่อง' ,และอีกหลายๆคอมเม้นท์ ซึ่งสามารถติดตามอ่านกันได้


แต่งานวันเด็กปีนี้นอกจากคำขวัญแล้ว นายกยิ่งลักษณ์ยังได้อุ๊บไว้เซอร์ไพร์สสำหรับ เด็กๆที่จะมางานที่ตึกสันติไมตรีที่

จะมีการจัดในทุกๆปีอีกด้วย ก็ต้องติดตามกัน ...


ผมว่าแค่คำขวัญอย่างเก่งเด็กๆคงจำได้แค่ สามัคคี มีความรู้คู่ปัญญา คงรักษา..... และคงคิดต่อไม่ออกแน่ๆ =w= ผมว่านะ คงต้องติดตามต่อกัน


เขียนบล็อกโดยนายร็อคกี้ ริคเกอร์


วันจันทร์ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2554

เปลี่ยนมาใช้ Facebook Timeline กันเถอะ

เปลี่ยนมาใช้ Facebook Timeline กันเถอะ

วันนี้เป็นอีกวันหนึ่งที่ผมได้เปลี่ยนหน้าFB เป็นแบบ Timeline ตามที่ตั้งใจไว้ และไม่สามารถเปลี่ยนกลับได้อีกแล้ว T-T FB.Timeline คืออะไร หลายคนอาจคงสงสัย ซึ่งอ่านรายละเอียดเกี่ยวกับ Facebook Timeline ได้ที่ คลิกอ่าน แต่ถ้ายังไม่เข้าใจสรุปคร่าวๆดังนี้

* Facebook Timeline เป็นรูปแบบของการดำเนินเรื่องราวแบบ Timeline ของเราตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน โดยสรุปไว้ในหน้าเดียว
* มี Cover รูปภาพ,โพสต์ต่างๆที่เกี่ยวกับตัวเรา
* Apps ของเฟสบุคยังคงมีเหมือนเดิม

พูดง่ายๆก็คือไม่ได้มีอะไรผิดแผกแตกต่างไปจากเดิมมากในเรื่องของ Apps ต่างๆยังคงเหมือนเดิม เพียงนำเอาระบบ Timeline มาเพิ่มเข้าไปนั่นแหละ และใครที่เปลี่ยนเป็นไทม์ไลน์แล้วนะครับ ก็พึงทำใจเลยนะครับเปลี่ยนกลับมาใช้แบบเดิมไม่ได้แล้วนะ ซึ่งตอนนี้เท่าที่ผมค้นหาดูใน Google เกี่ยวกับ Timeline ทำให้พบว่า
ผู้ใช้ส่วนใหญ่มีทั้งชอบและไม่ชอบ Facebook Timeline บ้างก็บอกว่าเหมือน hi5 และส่วนใหญ่เกิดความเคยชินปรับตัวไม่ทันเหมือนผมเอง

แต่ก็มีการโพสต์ข่าวในหลายๆบล็อกนะครับว่าอีกไม่นาน Facebook จะบังคับเปลี่ยนให้เป็นtimelineทุกคนอยู่แล้วไม่เกินปีนี้ แต่ก็ต้องติดตามกันต่อนะครับ

ใครไม่เข้าใจเกี่ยวกับ Facebook Timeline ก็สอบถาม Mag ได้นะครับโดยพิมพ์ทิ้งไว้ที่กล่องสนทนาด้านล่างบล็อกนี้ครับ หรือง่ายที่สุดก็ Google ครับ หลายเว็บตอนนี้ก็มีข้อมูล Facebook Timeline มากพอสมควร

เขียนบล็อกโดย Magkup


วันอาทิตย์ที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2554

Merry x-mas or christmas day

"We Wish You Merry Christmas We Wish You Merry Christmas..."
อีกไม่กี่วันแล้วนะครับที่เทศกาลเฉลิมฉลองคริสต์มาส หรือ x-mas ก็จะมาถึงกันอีกแล้ว โดยในวันนั้นก็จะเป็นวันที่เด็กๆทุกคนจะได้นำถุงเท้ามาแขวนไ้ว้ที่ปล่องไฟ เพื่อหวังว่าเขาจะได้รับของขวัญที่ดีจากชายเครายาว ใส่ชุดแดงนั่งบนล้อเลื่อน มีเรนเดียร์ลากมาส่งของขวัญให้ เด็กๆเหล่านั้นเพื่อตอบแทนที่เด็กๆเหล่านั้นเป็นเด็กดีตลอดปีที่ผ่านมา ในวันที่ 25 ธันวาคมของทุกปีนั่นเอง แต่เอ๊ะ จะมีใครทราบบ้างว่าประวัติวันคริสต์มาสมีที่มาอย่างไร และจะรออะไรกันอยู่ละ ตามผมไปอ่านกันดีกว่า

ประวัติวันคริสต์มาส หรือ x-mas,christmas อะไรก็ตามแต่
จริงๆแล้วเป็นเทศกาลของศาสนาคริสต์ ตรงกับวันที่ 25 ธันวาคมของทุกปี เพื่อเฉลิมฉลองวันประสูติของพระเยซูแต่ภายหลังเทศกาลนี้ก็มีผู้ร่วมฉลองกันทั่วโลกไม่ใช่แต่คริสเตียนเท่านั้นในปัจจุบัน ในวันนั้นผู้คนมากมายจะเริ่มพากันไปตัดต้นสน (เพราะว่าเป็นต้นไม้ที่หาง่ายที่สุดในประเทศนั้นๆ) เพื่อมาประดับตกแต่งภายในบ้าน มีการเขียนการ์ดคำอวยพรหากัน "Merry Christmas" ที่นิยมกันมากพร้อมกับเพลงในวันคริสต์มาส มีการเล่าเรื่องตำนานซานต้าครอสอีกด้วย
- สาเหตุที่ต้องมีต้นคริสต์มาสนั้นบางตำนานเชื่อว่า เป็นต้นไม้ที่อยู่ในสวนสวรรค์ซึ่งอาดัมและเอวาไปหยิบผลไม้มากินและทำบาปไม่เชื่อฟังพระเจ้า และเป็นการแสดงถึงบาปกำเนิดของทั้งสองในศตวรรษที่ 11 ชาวคริสต์จำมาเป็นฉากในการแสดงละคร

- ซานตาครอส ถือเป็นอีกจุดหนึ่งที่ถือเป็นสัีญลักษณ์ของการเฉลิมฉลองคริสต์มาสในปัจจุบันโดยเฉพาะในเด็กๆ แต่อันที่จริงแล้วถ้าดูประวัติจริงๆซานตาครอสแทบจะไม่เกี่ยวข้องกับคริสต์มาสเลยถ้าอ่านประวัติดังกล่าว แล้วซานตาครอส มาได้อย่างไรละ? คำถามนี้คงเกิดขึ้นมานั่นเพราะ มีเหตุมาจาก มีนักบุญคนหนึ่งชื่อ st.nicholas (อ่านว่า เซนต์-นิ-โก-ลาส) เป็นนักบุญชาวฮอลแลนด์ที่อุปถัมภ์เด็กๆ หลังจากนั้นชื่อนักบุญท่านนี้ก็ถูกเปลี่ยนเป็น ซานตาครอส ใส่ชุดสีแดง นั่งรถเลื่อนเรนเดียร์ อย่างที่เล่าในปัจจุบัน ในที่สุด

เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับประวัติวันคริสต์มาส ซึ่งนั่นผมคัดออกมาจากเว็บไซต์2เว็บที่จะทำให้คุณผู้ฟังสามารถเข้าใจได้ง่ายที่สุด แต่ถ้าอยากจะอ่านเพิ่มเติมมากกว่านี้ผมจะทิ้งเป็นเครดิตไว้แล้วนะครับ
สำหรับครั้งนี้ mag ต้องขอกล่าวคำว่า Merry X-mas ผู้อ่านบล็อกล่วงหน้าครับ ^^

อ้างอิงบทความ Wikipedia เจ้าเก่า(แปลไทย) และ Zabzaa สำหรับประวัติที่ค่อนข้างละเอียด
เรียบเรียงและเขียนบทความนี้โดย mag

วันพุธที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

176 ปีมาร์ค ทเวน นักวรรณคดีอเมริกันที่มีอารมณ์ขันดีที่สุดในโลก

สวัสดีครับ ผู้อ่านประจำบล็อกmr.rocky ricker ทุกท่าน ก็หายไปนานทีเดียว เพราะเนื่องมาจากไม่ค่อยมีเวลาเข้า่เขียนบล็อกเท่าไหร่ เพราะอยู่ในช่วงฝึกงาน ที่รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ อากาศหนาวพอควร > < !วันนี้ก็เข้ามาทั้งที พบกับหน้า Google เปลี่ยนใหม่อีกแล้ว กับหน้าจอครบรอบ 176 ปี มาร์ค ทเวน(Mark Twain) บิดาแห่งวรรณคดีอเมริกัน ไหนๆก็ไหนแล้ว เรามาดูประวัติเขาสักหน่อยดีกว่า

ประวัติโดยทั่วไป
มาร์ค ทเวน นักเขียนชาวอเมริกัน เขาเติบโตที่เมืองฮันนิบาล มิสซูรี ซึ่งในภายหลังจะให้การตั้งค่าสำหรับ Huckleberry Finn และ Tom Sawyer เขาฝึกงานกับเครื่องพิมพ์ เขายังทำงานเป็นช่างเรียงพิมพ์และผลงานบทความที่หนังสือพิมพ์ Orion พี่ชายของเขา หลังจากที่ toiling เป็นเครื่องพิมพ์ที่เป็นในเมืองต่างๆที่เขาได้กลายเป็นนักบิน Riverboat ต้นแบบในแม่น้ำมิสซิสซิปปี ก่อนที่จะมุ่งตะวันตกที่จะเข้าร่วม Orion เขาเป็นความล้มเหลวที่เหมืองแร่ทองคำดังนั้นเขาต่อไปหันไปวารสารศาสตร์ ในขณะที่นักข่าวเขาเขียนเป็นเรื่องอารมณ์ขัน,กบกระโดดฉลอง Calaveras ของมณฑล ซึ่งเป็นที่นิยมมากและนำทั่วประเทศให้ความสนใจ travelogues ของเขาได้ยังดีที่ได้รับ
เขาขาดความเฉียบแหลมทางการเงินและแม้ว่าเขาจะทำอย่างมากของเงินจากงานเขียนและการบรรยายของเขา squandered มันในกิจการต่างๆโดยเฉพาะในCOMPOSITOR Paige และถูกบังคับให้ล้มละลาย
ด้วยความช่วยเหลือของhenry Huttleston โรเจอร์ส ในที่สุดเขาก็เอาชนะปัญหาทางการเงินของเขา ทเวนทำงานอย่างหนักเพื่อให้แน่ใจว่าทั้งหมดของเจ้าหนี้ของเขาได้ชำระเงิน เต็มจำนวนถึงแม้ว่าการล้มละลายของเขาโล่งใจเขาจากความรับผิดชอบทางกฎหมาย

ระหว่างที่ทเวนยี่ยมชมดาวหางฮัลเลย์ เขาคาดการณ์ไว้ว่าเขาจะ"ออกไปพร้อมกับมัน"เช่นกัน เขาเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจวายเมื่อวันที่ 21 เมษายน ค.ศ.1910 กลับมาของดาวหาง เขาได้รับการยกย่องว่าเป็น"นักประพันธ์อารมณ์ขันอเมริกันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของอายุของเขา"

ขอบคุณเจ้าของข้อมูล Wikipedia(ฉบับแปลไทย) เรียบเรียงให้เป็นภาษาที่เข้าใจง่าย นายร็อคกี้

วันศุกร์ที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

224 ปี บิดาการถ่ายภาพ 'Louis Daguerre'


วันนี้หลังผ่านเวลา 00.01 น. ผมได้เข้า Google ซึ่งเปลี่ยนโลโก้ใหม่อีกแล้ว พอพิจารณาดูก็เป็นวันครบรอบของหลุยส์ ดาแกร์เร นักจิตรกรและนักสถาปัตยกรรมแห่งการออกแบบและวาดภาพ ของฝรั่งเศส และเป็นบิดาแห่งการถ่ายภาพในเวลาต่อมา ที่มีกระบวนการของ ดาแกโรไทป์ (Daguerreotype) ที่มีแนวคิดมาจากกระบวนการ Heliography ของ Josept Nicephore Niepce (หุ้นส่วนของหลุยส์และเสียชีวิตไปก่อน)


ประวัติของหลุยส์ ดาแกร์เร หลุยส์นั้นเกิดวันที่ 18 พฤศจิกายน ค.ศ.1787 ประเทศฝรั่งเศส เขาฝึกงานในสถาปัตยกรรมการออกแบบโรงละครและการวาดภาพแบบพาโนรามากับปิแอร์ Prevost, จิตรกรพาโนรามาก่อนภาษาฝรั่งเศส เหลือเกินเก่งที่ความสามารถของเขาสำหรับการแสดงละครมายาเขาก็กลายเป็นนักออกแบบที่มีการเฉลิมฉลองสำหรับละครเวทีและต่อมาที่จะคิดค้น Diorama ที่เปิดในปารีสในกรกฎาคม 1822

ในปี 1822 Josept Nicephore Niepce ผลิตภาพถาวรแห่งแรกของโลก (ที่รู้จักกันเป็น Heliograph) Daguerre ร่วมมือกับ Niépce สามปีต่อมาที่จุดเริ่มต้นความร่วมมือที่สี่ปี. Niépce เสียชีวิตอย่างกระทันหันใน 1833 เหตุผลหลักสำหรับการที่"หุ้นส่วน"เท่าที่ Daguerre เป็นกังวลอาจได้รับการเชื่อมต่อกับไดโอราม่าที่มีชื่อเสียงอยู่แล้วของเขา Niépce คือเครื่องพิมพ์และกระบวนการของเขาขึ้นอยู่กับวิธีที่เร็วกว่าในการผลิตแผ่นพิมพ์ Daguerre อาจจะคิดว่ากระบวนการการพัฒนาโดย Niépce ที่จะช่วยเพิ่มความเร็วในการสร้างภาพสามมิติของเขา

Daguerre ประกาศความสมบูรณ์แบบล่าสุดของ Daguerreotype หลังจากปีของการทดลองใน 1839 กับฝรั่งเศส Academy of Sciences ประกาศกระบวนการที่ 7 มกราคมของปีที่ สิทธิบัตร Daguerre ของถูกซื้อโดยรัฐบาลฝรั่งเศสและใน 19 สิงหาคม 1839 รัฐบาลฝรั่งเศสประกาศประดิษฐ์เป็นของขวัญ"ฟรีให้โลก."

ลูกชาย Niépce และ Daguerre ได้รับเงินบำนาญจากรัฐบาลในการแลกเปลี่ยนสำหรับการใช้งานร่วมกันได้อย่างอิสระ Daguerre เสียชีวิตเมื่อ 10 กรกฎาคม 1851 จากหัวใจวาย ชื่อของ Daguerre เป็นหนึ่งใน 72 ชื่อจารึกไว้ในหอไอเฟล

นั้นก็เป็นประวัติเล็กน้อยของดาแกร์เร บิดาแห่งการถ่ายภาพของเรานะครับ



ซึ่งสามารถหาอ่านเพิ่มเติมได้ที่ Wikipedia_Louis

ขอบคุณลิงค์อ้างบทความ :: http://www.imaicafe.com/2011/11/18/google-doodle-louis-daguerre/



วันพฤหัสบดีที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2554

แนะนำเรื่องการใช้ไฟฟ้าในสถานการณ์น้าท่วม 5 ประการ ควรคำนึง!!

สวัสดีครับท่านผู้อ่านและผู้ที่ติดตามบล็อก นายร็อคกี้ (Mr.rocky ricker) ของเราทุกท่านนะครับในวันนี้ 27 ต.ค.ผมก็ท่องโลกอินเตอร์เน็ตหาโน่นทำนี่ ไร้สาระกันอีกเช่นเคยจนกระทั่งไปเจอบล็อกหนึ่งของ IT24hr ขออนุญาตครอบลิงค์เพื่อเป็นประโยชน์แก่คุณผู้อ่านนะครับ เพื่อไม่ให้เสียเวลา ผมก็เลยไปเจอ 5 คำเตือนเรื่องไฟฟ้าขณะอยู่ในพื้นที่ที่เสี่ยงต่ออุทกภัย หรือเกิดขึ้นแล้วนะครับ ดังนี้ครับ

ข้อแนะนำในการใช้ไฟฟ้าในพื้นที่เสี่ยงภัยน้ำท่วมและน้ำท่วมขัง 5 ประการ
1.ก่อนน้ำท่วมเข้าภายในบ้านหรือบริเวณบ้าน ให้รีบขนย้ายอุปกรณ์ไฟฟ้าและสิ่งของจำเป็นไว้ที่สูงหรือที่ปลอดภัยน้ำท่วมไม่ถึง
เพราะว่าถ้าคุณไม่ทำเช่นนี้ หากอุปกรณ์ไฟฟ้าของท่านเมื่อโดนน้ำอุปกรณ์ของท่านก็พัง เสียหาย หรือแม้แต่ไฟฟ้าอาจรั่วและส่งผลเสีย
ต่อตัวเจ้าของบ้านเองได้ นะครับ ต้องระวัง >_<~

2. กรณีน้ำท่วมขังเป็นเวลานานและมีความจำเป็นต้องอาศัยอยู่ในบ้าน ให้ใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ชั้นบน โดยให้เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคหรือช่างไฟฟ้าที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านระบบไฟฟ้าปลดสวิตช์ที่ชั้นล่างให้เพื่อความปลอดภัย ควรปรึกษาเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคหรือช่างไฟฟ้าเพื่อแยกวงจรชั้นบน และชั้นล่าง

3.กรณีบ้านชั้นเดียว ให้งดใช้ไฟฟ้าโดยเด็ดขาด งดใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าทุกชนิด รวมถึงห้ามเปิดปิดสวิตช์ไฟด้านในและด้านนอกอาคารที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งขณะตัวเปียกหรือยืนแช่น้ำ แม้ว่าอุปกรณ์เหล่านั้นอาจอยู่เหนือระดับน้ำ เนื่องจากอาจเป็นอันตรายต่อชีวิตได้ *** ปลั๊กไฟที่น้ำท่วมห้ามใช้งานเด็ดขาด ***

4.
ควรอยู่ห่างจากเสาไฟฟ้าหรือระบบจำหน่ายในพื้นที่น้ำท่วม รวมทั้งปลั๊กไฟและอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ถูกน้ำท่วมอย่างน้อย 1 – 2 เมตร เพื่อความปลอดภัย

5.
พบผู้ถูกกระแสไฟฟ้าดูด อย่าใช้มือเปล่าแตะต้องตัวผู้ที่ติดอยู่กับกระแสไฟฟ้าหรือตัวนำที่เป็นเหตุ ให้เกิดอันตรายเป็นอันขาด เพื่อป้องกันมิให้ถูกกระแสไฟฟ้าดูดจนได้รับอันตรายไปด้วย
ควรใช้ผ้า หรือสื่อใดๆที่ไม่นำไฟฟ้า เขี่ยอุปกรณ์ไฟฟ้าจากผู้ถูกไฟฟ้าดูด และทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นแก่ผู้ถูกไฟฟ้าดูด

เป็นอย่างไรกันบ้างครับสำหรับคำแนะนำดีๆ 5 ประการง่ายๆที่คุณก็ทำได้ เพื่อความปลอดภัยของคุณและผู้อยู่อาศัยในบ้านคุณ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็นไฟฟ้าแรงสูง ทางที่ดีควรแจ้งฝ่ายการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคให้เข้ามาจัดการด้วยจะดีที่สุด และผู้ประสบเหตุไฟฟ้าดูดหลังจากได้รับการปฐมพยาบาลเบื้องต้นแล้ว ควรรีบแจ้งรถพยาบาลโดยเร็ว ...
อ่่านบทความนี้แบบฉบับเต็ม และบทความอื่นๆได้ที่ IT24ชั่วโมง

วันพุธที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ครม.ประกาศหยุดยาว 5 วันแก้ปัญหาน้ำท่วม

ครม.ยิ่งลักษณ์ ประกาศวันหยุดยาว 5 วันแก้ปัญหาน้ำท่วม

ที่ประชุมครม.ได้มีมติเห็นชอบ ประกาศให้ วันที่ 27 ,28 และ 31 ต.ค.2554 เป็นวันหยุดข้าราชการ ส่วนวันที่ 29 และ 30 เป็นวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ อยู่แล้ว ดังนั้น จึงถือว่า การประกาศวันหยุดในครั้งนี้ จะมีระยะเวลาทั้งสิ้น 5 วัน (อ้างอิง ลิงค์)
นางฐิติมา ฉายแสง โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมหลังครม.ได้อนุมัติวันหยุดราชการ จากวันที่ 27-31 ตุลาคมนี้ เพื่อรับมือกับเหตุน้ำทะเลหนุน โดยจะมี 21 จังหวัดที่ทาง ครม. ประกาศให้หยุด ได้แก่ จ.สุโขทัย จ.พิจิตร จ.พิษณุโลก จ.นครสวรรค์ จ.อุทัยธานี จ.ชัยนาท จ.สิงห์บุรี จ.อ่างทอง จ.พระนครศรีอยุธยา จ.ปทุมธานี จ.นนทบุรี จ.ลพบุรี จ.สระบุรี จ.นครนายก จ.ปราจีนบุรี จ.ฉะเชิงเทรา จ.สุพรรณบุรี จ.นครปฐม จ.กำแพงเพชร จ.ตาก (อ้างอิงจาก ลิงค์)

ไม่รู้ว่าการที่ประกาศหยุดยาวอย่างนี้จะเป็นผลดีแก่ราษฎรที่นักการเมืองจะช่วยราษฎรแก้ปัญหาน้ำท่วมกันอย่างเต็มที่ หรือว่าดีแก่นักการเมืองที่จะได้ถือโอกาสลาพักยาวก็ไม่รู้นะครับ คงต้องติดตามผลงานรัฐบาลกันต่อ แต่อย่างไรก็ตามประชาชนก็จะเป็นคนตัดสิน

วันศุกร์ที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2554

รองรับฮาร์ดดิสก์ของคุณไว้ด้วยกล่องเคสกระดาษ

เคสใส่ฮาร์ดดิสก์นอก(External harddisk) จาก"กล่องกระดาษ"

หากพูดว่ามีเคสที่ทำมาจากกล่อกระดาษ หลายคนต้องถึงกับตะลึง อ้าปากค้่างหรืออะไรต่ออะไรแน่ๆ O_o!! เพราะมันจะเป็นไปได้อย่างไรละ ก็เคส(case)มันก็ต้องเป็นกล่องเหล็กภายในบรรจุอิเล็กทรอนิกส์ของเครื่องคอมพิวเตอร์ไว้สิ แต่มันเป็นไปแล้วครับคุณผู้อ่าน และที่ผมกำลังจะพูดต่อไปนี้ก็คือ เป็นเคสแต่ไม่ใช่เคสที่เห็นทั่วๆไปนะครับ แต่เป็นเคสกล่องกระดาษที่เอาไว้สำหรับรองรับฮาร์ดดิกส์ของเราให้ดูเหมือนเป็นเคส ซึ่งเป็นไอเดียของ gadget ในผลิตภัณฑ์ที่ชื่อ Bytepac นะครับ ที่ต้องการลดโลกร้อนด้วยการนำกล่องกระดาษมาทำเป็นไอเดียดังกล่าว



ซึ่่งภายในจะถูกออกแบบให้มีขนาดพอดีกับฮาร์ดดิกส์ของเรา และมีช่องสำหรับสอดสาย USB ที่ไว้สำหรับเชื่อมต่อ harddisk กับ computer ของเรา ซึ่งไอเดียกล่องกระดาษฮาร์ดดิกส์นี่ก็อยู่ที่ 39.95 ยูโร หรือประมาณ 1,650 บาท

สำหรับขั้นตอนและวิธีการก็แค่เลื่อนครอบกล่องที่อยู่ด้านนอกออก จากนั้นที่ด้านในจะมี ช่องวางฮาร์ดดิสก์ SATA ขนาด 3.5" ด้านบนมีกระดาษพับกดลงด้านบนเมื่อปิด เพื่อให้มีช่องว่างภายในสามารถระบายความร้อนที่เกิดขึ้นได้ระดับหนึ่ง นำครอบกล่องมาสวมเข้าไป สังเกตที่ด้านล่างจะม่ีช่องเสียบเคเบิ้ล SATA/USB ขณะที่ด้านหน้าของกล่องจะ มีรูระบายอากาศให้อีกด้ว

อ้างอิงข้อมูล และขอบคุณข้อมูลจาก : it4x

แสดงความคิดเห็นบนบล็อกนายร็อกกี้ ผ่าน FB