วันศุกร์ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2555

ก่อนจะเสร็จจากฝึกงาน'เชียงรายประชานุเคราะห์'

มาดูกันสิครับว่าพี่เลี้ยงพาพวกผมไปเลี้ยงไหนกันบ้างและก่อนจะจบฝึกงาน พวกผมทำอะไรกันพี่เลี้ยงพาพวกผม ไปไหนกัน ถ้าพร้อมแล้วไปติดตามกับผมได้ ครับ :)



พี่เลี้ยงรพ.เชียงราย เลี้ยงก่อนกลับวิทยาลัยฯ
คืนวันที่ 25 มกราคม 55 ตั้งแต่ 18.00 น.เป็นต้นไป พี่นิด(รพ.เชียงรายฯ) พาพวกผมไปเลี้ยงกุ้งเผาที่ร้านเอกโอชาและก็ได้ถามสารทุกข์สุขดิบ และแลกเปลี่ยนประสบการณ์กันระหว่างกัน ให้คำแนะนำแก่น้องฝึกงาน

ก่อนจะกลับจากฝึกงาน อาจารย์พี่เลี้ยง


เที่ยงวันที่ 26 มกราคม 55 พี่เลี้ยง(ป้าเบญจวรรณ) พาไปกินเลี้ยงอาหารกลางวันที่ร้านอาหารอิสลาม ตรงข้ามสุสานเด่นห้าพร้อมกับพี่ Coder และพี่ๆห้องเวชระเบียน หลังจากนั้นก็ไปต่อกันที่ร้านไอศกรีมลุงชม(ธรรมดาของว่างเนาะ ^_^)


วันนี้ 27 มกราคม 55 ช่วงเช้าถ่ายรูปคู่กับพี่ๆเวชระเบียนและพี่เลี้ยงทุกคนทั้งระบบเวชระเบียนและรหัสทางการแพทย์
ได้ของที่ระลึกและของฝากจากพี่เลี้ยงด้วย แต่ที่สำคัญคือพวกเราได้เสื้อยืดกลับไปคนละตัวเท่ห์ชะมัดเลย
อิอิ

(ของที่ระลึกมอบให้อาจารย์พี่เลี้ยง โฮงยาไทย)





และพวกเราก็ยังมีของที่ระลึกมอบให้กับพี่เลี้ยงรพ.เชียงรายด้วย ขอขอบคุณนะครับที่มอบความรู้และประสบการณ์
รวมทั้งความสนุกสนาน และหลายสิ่งหลายอย่างที่มอบให้พวกเรา ขอบคุณจริงๆครับ
น้องๆนักศึกษาฝึกงาน รพ.เชียงราย เวชระเบียน รุ่นที่ 36
@tanaesuan (แม็ก) @Ismaair (แอร์) @อาซาน @Sittikorn (ป๊อบ)
พี่เลี้ยงรพ.เชียงราย
@Khunchai (พี่เมิง) ,
พี่กานต์,
พี่เบญ(ป้าเบญจวรรณ) ,
@Pawinee (พี่แก้ม) ,
@kreaw (พี่แขก) ,
ป้าเพ็ญ-Admit
@พี่ฟองคำ ,
พี่นิด-สุมิตตรา ,
พี่ปู-วรสิทธิ์ ,
@พี่ยา-สุนันสินี
และพี่เลี้ยงคนอื่นๆที่ไม่อาจกล่าวได้หมดทุกคนครับ ทุกคนเป็นกันเองมาก แม้ว่าพวกผมจะเป็นเพียงนักศึกษาฝึกงาน

ภาพในบล็อกนี้เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้นนะครับถ้าหากอยากจะรับชมภาพมากกว่านี้โปรดติดตามได้ในอัลบั้มภาพใน Facebook ของผม FB : tanaesuan kaithed และ เฟสบุ๊คพี่ๆเวชทุกคน รวมถึงเฟสบุ๊คเพื่อนร่วมฝึกงานครับ
และว่างๆถ้ามีโอกาสจะมาเยี่ยมใหม่ครับ #เชียงรายประชานุเคราะห์


เขียนบล็อกโดย mr.rocky ricker (นายแม็กกี้)
ขอขอบคุณภาพสวยๆเช่นเคย @อาซาน และ @Khunchai (พีเมิง) มากๆครับ

วันจันทร์ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2555

เที่ยวไร่บุญรอด 'เชียงราย'

... เฮ้อ เพิ่งอัพขึ้นภูวันเด็กผ่านไปได้ไม่กี่วัน วันนี้ก็ได้ฤกษ์อัพเรื่องใหม่อีกแล้ว แต่ว่าวันนี้จะเป็นเรื่องอะไรนั้น
ว่าแล้วก็ติดตามกันเลยดีกว่าครับ
เที่ยวไร่บุญรอด ต.แม่กรณ์(ดงมะดะ) อ.เมืองเชียงราย
สดๆร้อนๆ จากเมื่อวานนี้(22 ม.ค.55) ประมาณ บ่ายสองกว่าๆหลังจากที่พวกผมไปวัดดอยเขาควายกันแล้ว
ก็พากันไปต่อที่ไร่บุญรอดกัน (ว่างๆบทความต่อไปจะเอามาฝากนะครับวันนี้ทริปนี้ก่อนละกัน ^o^)


พอไปถึงก็บ่ายสองห้าสิบ(14.50 น.) อีกไม่ถึงห้านาที รถรางนำเที่ยวทัวร์ไร่ก็จะออกแล้วพวกผมเลยพากันฃเข้าไปซื้อตั๋วขึ้นรถรางกัน คนละ 50 บาทแถมน้ำอีก 1 ขวด (ตั๋วก็เป็น Postcard ไปในตัวด้วย) จากนั้นได้และคนขับรถรางก็เริ่มนำเราเข้าสู่ไร่บุญรอด ประมาณ 8,700 ไร่ครอบคลุม 4 ตำบล (จำไม่ได้แล้วสิว่าต.อะไรบ้างสงสัยต้องกลับไปฟังพี่ไกด์อีกทีวันหน้า 555+)

ระหว่างทางสองข้างทางก็มีต้นเหลืองเชียงราย และลีลาวดีอยู่ แต่ยังไม่มีดอกมีแต่กิ่งก้านสาขา พี่ไกด์บอกว่าประมาณเดือนหน้า(กุมภาพันธ์ ) ดอกจะบานและทุ่งข้าวบาร์เลย์จะเหลืองออกเต็มที่ (-*-)และแล้วก็ถึงจุดแรกที่พวกเราแวะักันนั่นคือ ไร่พุทรากว่า 50 ไร่


พี่ไกด์พูดให้ฟังว่าพุทราพันธ์นี้(พันธุ์ซื่อหมี่) ขนาดปกติเท่ากับลูกปิงปอง และลูกใหญ่สุดเท่ากับลูกเทนนิส (O.o)ถ่ายรูป+แวะพักประมาณ 10 นาทีพุทราห๊อมมหอม (ตรงไหนหว่า ??~!) ฝั่งตรงข้ามกันเป็นนาที่เตรียมไว้สำหรับ ปลูกข้าวญี่ปุ่นสถานีถัดไปคือ ไร่สตอเบอร์รี่ มะเขือเทศ(พันธุ์อะไรไม่รู้จำไม่ได้) และฝั่งตรงข้ามก็เป็็น จุดชมวิวแปลงสตอเบอรี่ มีอะไรบ้างนะหรอ ?~??
- สาธิตการทำรุ้งกินน้ำ (มุมนี้สวยๆนะ)
- น้ำเต้า,แปลงดอกไม้ พืชผักสวนครัวทั่วไป

สวนน้ำเต้า สวนมะเขือเทศ

รุ้งกินน้ำ และ สวนสตอเบอรี่

จากนั้นสถานีถัดไป สถานีที่ 3 คือไร่ชาอูหลงพี่ไกด์บอกพวกเราว่า ส่วนใหญ่ผลิตเพื่อส่งออกต่างประเทศ ได้แก่ไต้หวัน ( พี่เขาแซวพวกเรากันอีกว่าไม่แน่ว่าถ้าเราไปประเทศไต้หวันแล้วได้ชากลับมา ชานั้นอาจมาจากไร่ของเรานี้ก็ได้ พวกเราก็ยิ้มๆพลางหัวเราะไปกับพี่ไกด์ด้วย -*-)

กลายเป็นคนเก็บชากันไปซะแล้ว อิอิ

จากนั้นไปสถานีที่ 4 สถานีสุดท้ายของทัวร์ไร่บุญรอดกันแล้วนั่นคือร้านอาหารภูภิรมย์ ซึ่งจุดๆนี้เราสามารถถ่า่ยคู่กับป้ายไร่บุญรอดได้และร้านอาหารที่เขาว่าสามารถเห็นวิวได้ 360 องศาสามารถเห็นวิวได้โดยรอบ(สถานีที่พวกเราผ่านมาเมื่อครู่ก็มองเห็นนะครับ)
แวะถ่ายภาพสักหน่อย อิอิ เหลืองเชียงราย (บานเต็มที่ตอนเดือนหน้า)

จากนั้นเราก็ขึ้นรถรางกลับไปยังหน้าไร่ ซึ่งจุดนี้ระหว่างทางพี่ไกด์แนะนำเราอีกว่า จะมีทางแยกไปดูโรงงานผลิตชา,โรงพักใบชา และทางมาร้านอาหารภูภิรมย์นี้ ถ้ามาด้วยรถส่วนตัวทางไร่บุญรอดอนุญาตให้มาไ้ด้เฉพาะร้านอาหาร โดยปิดถึง 22.00 น.สองข้างทางยามค่ำคืนจะมีตะเกียงน้ำมันส่องตลอดทาง
ส่วนร้านอื่นๆ (ร้านหน้าไร่ กับ รถรางเข้าชมไร่ปิดถึง 18.oo น.)รถรางเข้าชมไร่เริ่ม 9.30 - 17.00 น. (จ.-ศ.ออกรถทุกชั่วโมง ส่วนเสาร์-อาทิตย์ออกทุกครึ่งชั่วโมง เที่ยงจะออกเวลา 12.30 ให้พนง.พักทานอาหารก่อน )

หลังจากลงรถรางเนื่องจากหมดรอบก็ 16.00 น.แล้ว ผมก็ขอถ่ายรูปคู่กับพี่ไกด์นำทาง และก็คนขับรถราง
ให้เราชมไร่ด้วย


ขอขอบคุณมากนะครับที่ให้ข้อมูลและคำแนะนำดีๆแถมมีไมตรีที่ดีด้วยแล้วถ้ามีโอกาสผมจะกลับมาเที่ยวใหม่นะครับ ประทับใจและคุ้มมากครับ ... ไร่บุญรอด

เขียนบล็อกโดย Mr.Rocky Ricker (แม็กกี้)
ขอขอบคุณภาพสวยๆจาก @อาซาน และ @Ismaair และขอบคุณที่่อนุญาตให้เรานำภาพมาลงให้เพื่อนๆได้ชมก้ัน เช่นเคย
หากอยากชมภาพสวยๆใหญ่ คลิกที่ภาพนะครับ (ภาพใดคลิกไม่ได้ก็ตามนั้นครับ ^_^)

วันพฤหัสบดีที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2555

ขึ้ันภูชี้ฟ้า 'วันเด็ก'ตอนที่ 2

หลังจากที่ตอนที่ 1 ผ่านไปให้หลายคนได้ติดตาม แถมยังมีบทความอื่นมาแทรกระหว่างกลางอีก ก็ได้มีโอกาส อัพตอนที่ 2 ซักทีก่อนที่ผู้อ่านจะรำคาญผม (จริงๆก็โดนนานละเนาะ )


ตื่นนอนตอนตี่สี่ครึ่ง(04.30 น.) ล้างหน้าแปรงฟัน (แบบว่าไม่ค่อยตื่นเต้นเท่าไหร่เลย - - ) และรอเวลาจน05.30 น.ก็ขึ้นรถปิกอัพขึ้นไปที่ลานจอดรถบนภูชี้ฟ้า (ค่ารถคนละ ซาว(20)บาท) และเดินต่อขึ้น ภูชี้ฟ้าอีกจะถึงภู ก็เล่นเอาเหนื่อยเหมือนกัน ถึงจุดหมายก็ประมาณ 06.00 น.แล้วก็รอๆ ร๊ออ รอ ... ถ่ายรูปพูดคุยไปเรื่อยๆ จนเวลาประมาณ 6.20 น. <>แสดง แสงแดดของวัน


เริ่มปรากฎสักพักหมอกก็บังอีก รอจนกระทั่ง 6.45 น. แสงออกและจน 7.10 น. พระอาทิตย์โผล่ขึ้นมาจากเส้นขอบฟ้า (เย้ๆ ดีใจจัง เวลาที่เรารอคอยก็มาถึงซะที O.o!! )


หลังจากนั้นท้องฟ้าก็เปิดทั้งหมด เราก็เริ่มไปถ่ายรูปกันในจุดอื่นๆ บนภูชี้ฟ้า รวมไปถึงป้ายภูชี้ฟ้า (จุดสำคัญที่จะลืมไม่ได้ อิอิ ^-^!! )



และอีกอย่างเจอชาวต่างชาติด้วย ขอถ่ายรูปกับเขาและถามว่ามาจากไหน ..ได้รับ
คำตอบกลับมาว่ามาจาก อเมริกา จนพี่เลี้ยงที่พาพวกเราไปทักทำนองแซวว่า "เด็กพวกนี้ ไปไหนก็เจอฝรั่ง(ชาวต่างชาติ)ทุกที่เลยนะ - -! ) ...(ฮะๆ ก็มันบังเอิญนี่นาเนาะ จริงมะ @sittikorn @อาซาน @Ismaair)
ทั้งหมดนี้ก็คือทริปภูชี้ฟ้าประจำปี 2555 วันเด็ก 14 ม.ค.55 ที่พวกผมได้มีโอกาสไปเที่ยวกันมา และนำมาเล่าพร้อมกับเก็บภาพบางส่วนจากทั้งหมดมาฝากให้เพื่อนๆและคุณผู้อ่านมทุกท่านได้ติดตามกัน เผื่อฤดูหนาวหน้าเพื่อนๆ อาจเก็บภูชี้ฟ้านี้ไว้ในโปรแกรมท่องเที่ยว #travel อีกที่ก็ได้ แล้วพบกันใหม่ี ในบทความ หน้าครับ สวัสดี ...



เ่ขียนบล็อกโดย Mr.Rocky Ricker [Mag @tanaesuan]
ขอขอบคุณ @Ismaair และ @อาซาน - สำหรับภาพสวยๆที่ถ่ายให้เราได้นำมาชมกัน
หมายเหตุ - @ตามด้วยชื่อที่อ้างอิงในบทความนี้คือชื่อตาม FB ไม่ใช่ Twitter ครับอย่าเข้าใจผิดนะ
- (คลิกที่ภาพหากต้องการดูแบบใหญ่ๆ)

วันอังคารที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2555

ประกาศใช้ธนบัตรใบละ 50 บาท 18 ม.ค.นี้

พักจากเรื่องภูชี้ฟ้า ก่อนจะไปต่อตอนที่ 2 ผมมีเรื่องน่าสนใจอีกเรื่องมาแรงแซงโค้งตอนนี้นั่นคือข่าวประกาศ
การใช้ธนบัตรรุ่นใหม่ล่าสุดนั่นเอง (ไม่งั้นคันไม้คันมือไม่จบสิ้น..) โดยธปท.ประกาศให้เริ่มใช้วันที่ 18 ม.ค.นี้
โดยในวันที่ 18 มกราคมของทุกปี เป็นวันทำยุทธหัตถีของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ซึ่งนี่ก็อาจจะเป็นเหตุผลที่ลงตัวที่ทำให้ ธปท.ประกาศให้มีการใช้ธนบัตรรูปแบบล่าสุดดังกล่าวข้างต้นก็เป็นไปได้เช่นกัน มีใจความจากประกาศที่ผมไปขุดคุ้ยมาจากเว็บ ธปท.มาดังนี้

" นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แถลงว่า ธปท. ได้พัฒนาและ
เปลี่ยนแปลงรูปแบบของธนบัตร โดยออกแบบเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระมหากษัตริย์ไทยในสมัยต่าง ๆ พร้อมนำเทคโนโลยีต่อต้านการปลอมแปลงแบบใหม่มาใช้ เพื่อให้มีความสะดวกในการใช้งาน สามารถตรวจสอบได้ง่ายขึ้น ทั้งโดยเครื่องจักรนับคัดธนบัตรและโดยประชาชนทั่วไป รวมทั้งผู้พิการทางสายตา
สำหรับธนบัตรแบบใหม่ (แบบ 16) นี้ ธปท. จะทยอยนำออกใช้ 5 ชนิดราคา ได้แก่ 20 บาท 50 บาท 100 บาท 500 บาท และ 1000 บาท ซึ่งยังคงมีขนาดและสีเช่นเดียวกับธนบัตรแบบที่ใช้ในปัจจุบัน (แบบ 15) โดยมีกำหนดนำธนบัตร ชนิดราคา 50 บาท ออกใช้เป็นชนิดราคาแรก ในวันที่ 18 มกราคม 2555 "


(ภาพธนบัตร 50 บาทล่าสุด)

โดยลักษณะที่สำคัญของธนบัตรใบละ 50 บาทนี้มีลักษณะดังนี้
1. ลายน้ำ พระบรมฉายาสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบัน และลายน้ำตัวเลขไทย
“๕๐” ที่มีความโปร่งแสงเป็นพิเศษ มองเห็นได้ชัดเจนเมื่อส่องดูกับแสงสว่าง

2. แถบสีน้ำเงินที่ปรากฏด้านหลังธนบัตร เป็นแถบพลาสติกเคลือบสีน้ำเงินที่ฝังไว้ในเนื้อกระดาษธนบัตร
ตามแนวยืน โดยเปลี่ยนจากสีน้ำเงินเป็นสีแดงเมื่อเปลี่ยนมุมมอง

3. ภาพซ้อนทับ ตัวเลข 50 พิมพ์แยกไว้บนด้านหน้าและด้านหลัง เมื่อยกธนบัตรส่องดูกับแสงสว่างจะเห็น
เป็นตัวเลข 50 ที่สมบูรณ 

4. ลายพิมพ์นูน นอกจากที่ตัวอักษรและตัวเลขแจ้งราคาแล้ว ยังมีสัญลักษณ์สำหรับผู้พิการทางสายตา
เป็นรูปดอกไม้สีน้ำเงินเข้มในแนวเฉียง 2 ดอก มาจากตัวเลข “5” ในอักษรเบรลล 

แต่อย่างไรก็ตามธนบัตรรุ่นใหม่และรุ่นก่อนหน้าก็ยังคงสามารถใช้ชำระหนี้ได้ตามกฎหมายเช่นเดิม
และสงสัยว่าหลังจากนี้ธนบัตรรุ่นก่อนนี้คงจะหายาก และราคาแพงมากขึ้น เฉกเช่นธนบัตรเก่าๆรุ่นที่ผ่านๆมา
แน่ๆเลย ตอนนี้ผมยังมีแบงค์ 20 รุ่นเก่าๆอยู่เลยนะ ยกเว้นแบงค์สิบบาทแหะหาไม่เจอ เอาเป็นว่ารอบนี้ผมขอตัวไปสะสมแบงค์ 50 ก่อนดีกว่า แล้วพบกันใหม่ครับ ฟ้าวว ...

เขียนบล็อกโดย mr.rocky ricker
ขอขอบคุณอ้างอิงข้อมูลจาก : ธปท.- ธนาคารแห่งประเทศไทย [link บทความ]

วันอาทิตย์ที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2555

ขึ้นภูชี้ฟ้า 'วันเด็ก' ตอนที่ 1

... อืมม หลังจากอัพบล็อกล่าสุดเรื่องคำขวัญวันเด็กไปเมื่อปลายปีที่แล้วผ่านมาก็ได้ฤกษ์อัพบล็อกเรื่องใหม่ของปีใหม่ทัันทีในวันนี้ ผมกะว่าจะหาเวลาอัพนานละ แต่ยังคิดไม่ออกว่าจะอัพเรื่องอะไรวัีนนี้พอดีไปเที่ยวมา
เลยมาขออัพบล็อก และอัพเดตภาพสวยๆให้ผู้อ่านลองดูละกันครับ

ทริป(การเดินทาง)ไปยังภูชี้ฟ้านี้ มีจุดเริ่มต้นจากอาจารย์พี่เลี้ยงรพ.เชียงราย(พวกผมมาฝึกงานนะครับ)
เริ่มออกเดินทางเวลา 13.45 น.(วันเด็กแห่งชาติ 14 ม.ค.55 ซะด้วย ^^) ด้วยรถประจำทางเชียงราย-เทิงจัดเรียงกึ่งกลาง

และเริ่มเหมารถสองแถวต่อขึ้นภูชี้ฟ้าปลายทางของเรา ค่าเหมา 700 บาท(แพงหูฉี่- -! ส่งไม่ถึงที่อีกปกติก็ประมาณนี้)
ประมาณ 17.00 ถึงที่พัก (มิได้พักเต้นท์นะ พักที่เรือนทองบ้านพัก )
เห็นรถตู้ช่อง 3 ด้วยสงสัยเตรียมถ่ายรายการสัญจรวันที่ 16 ม.ค.55 (ต้องติดตามดูซะหน่อยแล้ว 55+)
(บริเวณสามแยกไปอุทยาน และบ้านพักบนภูชี้ฟ้า)

18.oo น.ถ่ายรูปและชมบรรยาการรอบๆที่พักระหว่างรอรับประทานอาหาร

19.00 น.เริ่มรับประทานอาหาร และหลังจากนั้น 20.30 -21.00 น.เริ่มชมหิ่งห้อย (แปลกยังไงนะเหรอ ??~?
ก็แปลกตรงที่เจ้าของที่พักบอกว่าเพิ่งเกิดขึ้นปีนี้เป็นปีแรกนะสิ ~O.o!! )
และเริ่มก่อกองไฟผิงกัน (ก็มันหนาวนี่ T-T )


ภาพทั้งหมดนี้เล็กๆน้อยเฉพาะวันแรก 14 ม.ค.นะครับ เดี๋ยวมาต่อตอนที่สองครับ ตื่นนอนกันตอนตีสี่
เพื่อขึ้นไปดูพระอาทิตย์ขึ้นตอน 6.00 น.บอกได้คำเดียวว่างานนี้ต้องติดตามอย่าพลาดครับ !!

แสดงความคิดเห็น (Comment) กันได้ผ่าน FB ของท่านที่ใต้บทความนี้นี้นะครับ รอติดตามกันนะครับกับตอนที่ 2 ครับ
เขียนบล็อกโดย นายแม็ก(mr.rocky ricker)

แสดงความคิดเห็นบนบล็อกนายร็อกกี้ ผ่าน FB